เช่าโกดังสินค้า คลังสินค้าแล้วจำเป็นต้องจดแจ้งสาขาหรือไม่

การจดแจ้งสาขาสำคัญอย่างไรเมื่อต้องเช่าโกดังสินค้า คลังสินค้า

บ่อยครั้งที่ผู้เริ่มต้นธุรกิจใหม่ โดยเฉพาะกับเจ้าของธุรกิจที่กำลังขยายการลงทุน ขยายพื้นที่จัดเก็บสินค้า หรือขยายกำลังการผลิต มักจะเกิดคำถามว่า จะต้องจดแจ้งสาขาหรือไม่..? เมื่อมีการเช่าโกดังสินค้า เช่าคลังสินค้าใหม่ หรือในกรณีที่มีการก่อสร้าง หรือเช่าโรงงานใหม่

เนื่องจากการขยายพื้นที่จัดเก็บสินค้าจำเป็นต้องก่อสร้างโกดังสินค้าหรือเช่าคลังสินค้า เพื่อขยายพื้นที่จัดเก็บขณะที่การขยายกำลังการผลิต ก็จำเป็นต้องมีการก่อสร้างโรงงาน หรือ เช่าโรงงานใหม่ ประเด็นสำคัญคือ เมื่อเกิดการก่อสร้างหรือ การเช่าโกดัง คลังสินค้า หรือโรงงานแห่งใหม่ เจ้าของธุรกิจจะต้องดำเนินการจดทะเบียนสาขาหรือไม่ เพราะในช่วงที่ก่อตั้งบริษัทเจ้าของธุรกิจได้มีการจดทะเบียนบริษัทแล้ว

ทำไมต้องมีการจดแจ้งสาขาเพิ่ม 

โดยปกติแล้วในการประกอบธุรกิจนั้น ผู้ประกอบธุรกิจจะมีการจดทะเบียนบริษัทและมีสถานประกอบการธุรกิจที่เป็นหลักแหล่ง และเมื่อมีการขยายสถานประกอบการเพิ่ม กฎหมายกำหนดให้ต้องจดทะเบียนเพิ่มสาขา เพื่อสะดวกต่อการดำเนินการด้านภาษี เช่น การจัดเก็บภาษี หรือนำรายจ่ายไปใช้ประโยชน์ทางภาษี เนื่องจากในใบกำกับภาษีต้องระบุสาขาที่ใช่ใบกำกับภาษีซื้อ หากมีการระบุไม่ตรงสาขาที่ต้องเคลมภาษีซื้อ กรมสรรพากรอาจตีเป็นภาษีซื้อต้องห้าม และอาจเกิดเป็นช่องโหว่ให้สรรพากรพบความผิดปกติ ในการเพิ่มสถานประกอบการโดยไม่แจ้งล่วงหน้า ซึ่งหากเกิดการตรวจสอบในภายหลังอาจกลายเป็นเรื่องใหญ่ของเจ้าของธุรกิจได้

สถานประกอบการคืออะไร

สำหรับสถานประกอบการ ตามในความหมายทางกฎหมาย คือ สถานที่ซึ่งผู้ประกอบการใช้ประกอบกิจการเป็นประจำและหมายความรวมถึงสถานที่ซึ่งใช้เป็นที่ผลิตหรือเก็บสินค้าเป็นประจำ หรือใช้ประกอบกิจการเป็นประจำ โดยสถานประกอบการที่ต้องจดทะเบียนเพิ่มสาขา แบ่งออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่

1. ใช้ประกอบกิจการ เช่น หน้าร้านขายสินค้า
2. ใช้ในการผลิตสินค้าหรือวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ เช่น โรงงานผลิตสินค้า
3. ใช้เป็นคลังเก็บสินค้า เช่น โกดังสินค้าให้เช่า คลังสินค้าให้เช่า

โกดัง คลังสินค้า โรงงาน ที่ไม่ต้องจดทะเบียนสาขาเพิ่ม

โดยทั่วไปแล้ว โกดังสินค้าให้เช่า โรงงานให้เช่า หรือคลังสินค้าให้เช่า รวมถึงหน้าร้านขายสินค้านั้น ในทางกฎหมายได้กำหนดให้เป็นสถานประกอบการธุรกิจก็ต่อเมื่อมีการใช้งานประจำ แต่หากโกดังสินค้าให้เช่า โรงงานให้เช่า หรือคลังสินค้าให้เช่า นั้นมีการใช้งานเป็นการชั่วคราว ในทางกฎหมายถือว่าไม่เข้าลักษณะของสถานประกอบการ จึงไม่ต้องจดทะเบียนสาขา โดยหน้าร้านขายสินค้า โกดังให้เช่า คลังสินค้าให้เช่า โรงงานให้เช่า ที่ไม่ต้องจดทะเบียนสาขาต้องมีลักษณะดังนี้

• การสร้างโกดังหรือคลังจัดเก็บเก็บวัสดุก่อสร้าง ของธุรกิจรับเหมาก่อสร้างตามไซด์งานก่อสร้างต่างๆ เมื่อต้องเข้าไปก่อสร้างบ้านให้ลูกค้า หรือหน่วยก่อสร้างชั่วคราวตามพื้นที่ต่างๆ ในไซด์งานก่อสร้าง ไม่ต้องจดทะเบียนสาขา
  
  
• การจ้างงานบริษัทอื่น หรือโรงงานอื่น ให้ผลิตสินค้าตามคำสั่ง โดยไม่มีพนักงานของเราไปปฏิบัติงาน หรือให้บริการลูกค้า และเมื่อผลิตเสร็จผู้รับจ้างผลิตจะส่งสินค้าคืนให้กับเรา ถือว่าไม่เข้าเงือนไขสถานประกอบการประจำ ไม่ต้องจดทะเบียนสาขา
  
  
• เช่าโกดังเก็บสินค้า คลังสินค้า และผู้รับฝากรับผิดชอบในการดูแลรักษาสินค้าของกิจการ หากเกิดการเสียหาย สูญหาย ผู้รับฝากต้องรับผิดชอบ ซึ่งเข้าลักษณะเป็นการให้บริการรับฝากทรัพย์ รวมทั้งกิจการไม่มีสิทธิครอบครองคลังสินค้าที่ใช้จัดเก็บสินค้า จึงไม่ถือเป็นสถานที่เก็บสินค้าประจำ และไม่ต้องจดทะเบียนเพิ่มสาขา
  
  
• การเปิดบูธหรือหน้าร้านขายสินค้า หรือแนะนำสินค้าตามงานแสดงสินค้าต่างๆ ไม่ต้องจดทะเบียนสาขา เพราะไม่เข้าเงื่อนไขการเป็นสถานประกอบกิจการเป็นประจำ

เมื่อไหร่ที่ธุรกิจควรจดทะเบียนสาขาเพิ่ม

ปกติแล้วเจ้าของธุรกิจจะวางเป้าหมายในการดำเนินธุรกิจให้มีการเติบโตเพิ่มขึ้นในทุกๆ ปี และเมื่อธุรกิจมีการขยายตัวจนถึงจุดที่พื้นที่สถานประกอบการเริ่มไม่เพียงพอต่อการใช้งาน เช่น สถานที่ผลิตสินค้าหรือ โรงงาน โกดังสินค้าคลังสินค้า ทำให้ต้องมีการขยายสถานประกอบการ สิ่งที่ตามมาเมื่อมีการขยายสถานประกอบการที่มีการใช้งานประจำมากกว่า 1 แห่งก็คือเรื่องของการจดทะเบียนสาขาเพิ่ม 

การจดทะเบียนสาขาเพิ่มนั้น มีความสำคัญต่อเจ้าของธุรกิจย่างมาก เพราะการขยายสถานประกอบการเพิ่มจะต้องทำให้ถูกต้องตามข้อกำหนดที่กรมสรรพากรกำหนดไว้ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในภายหลังและส่งผลต่ออนาคต โดยการจดทะเบียนเพิ่มสาขานั้นสามารถยื่นขอจดได้ทั้ง 2 แห่ง คือ

1. ยื่นของจดทะเบียนสาขาเพิ่มที่กรมสรรพากร
   ซึ่งต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จก่อนวันเปิดสถานประกอบการเพิ่มไม่น้อยกว่า 15 วัน โดยในการยื่นขอจะทะเบียนเพิ่มสาขานั้น ผู้ประกอบธุรกิจจะต้องมีการจัดเตรียมเอกสารประกอบการจดทะเบียน ดังนี้
   • แบบ ภ.พ.09 จำนวน 5 ชุด
   • สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนกรรมการผู้มีอำนาจ จำนวน 1 ชุด
   • สำเนาทะเบียนบ้านกรรมการผู้มีอำนาจ จำนวน 1 ชุด
   • แผนที่ตั้งสาขาบริษัทที่เพิ่มใหม่1ชุด
   • สำเนาสัญญาซื้อขายโรงงาน โกดังสินค้า หรือคลังสินค้า 1ชุด (กรณีซื้อ) หรือ สำเนาสัญญาเช่า 1 ชุด (กรณีเช่า)
   • หนังสือยินยอมให้ใช้สถานประกอบการ 1 ชุด
   • สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนเจ้าบ้าน/ผู้ให้เช่าผู้มีอำนาจจำนวน 1 ชุด
   • สำเนาทะเบียนบ้านเจ้าบ้าน/ผู้ให้เช่าจำนวน 1 ชุด
   • ภาพถ่ายบริษัท 3 รูป
   • ภาพถ่ายระยะไกลที่เห็นป้ายชื่อบริษัทและป้ายบ้านเลขที่ในภาพเดียวกัน
   • ภาพถ่ายระยะไกลให้เห็นทั้งตัวอาคาร
   • ภาพถ่ายภายในอาคาร
   • สำเนาหนังสือรับรองบริษัท (ฉบับปัจจุบัน ไม่เกิน 6 เดือน) จำนวน 1 ชุด
   • หนังสือมอบอำนาจ (กรณีไม่สามารถไปขอจดทะเบียนเพิ่มสาขาเองได้)
   • สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนผู้รับมอบอำนาจ (กรณีผู้ประกอบการไม่สามารถไปขอจดทะเบียนเพิ่มสาขาเองได้)
     
     
     
2. การยื่นของที่ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า
   โดยผู้ประกอบธุรกิจที่ต้องการยื่นขอจดทะเบียนเพิ่มสาขาจะต้องจัดเตรียมเอกสารดังนี้ ดังนี้
   • แบบ บอจ.1
   • หนังสือรับรองการจดทะเบียน
   • แบบ บอจ.4
   • สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนกรรมการผู้มีอำนาจ
   • หนังสือมอบอำนาจ (กรณีไม่สามารถไปขอจดทะเบียนเพิ่มสาขาเองได้)
   • สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนผู้รับมอบอำนาจ (กรณีผู้ประกอบการไม่สามารถไปขอจดทะเบียนเพิ่มสาขาเองได้)

ข้อดีของการจดทะเบียนสาขาเพิ่ม

สำหรับการจดทะเบียนสาขาเพิ่ม เพื่อขยายธุรกิจไม่ว่าจะเกิดจากการเช่าโรงงานให้เช่า(Factory for rent) หากเป็นการเช่าคลังสินค้าให้เช่า(Warehouse for rent Thailand) หรือโรงงานให้เช่าที่อยู่ในประเทศไทย (Factory for rent Thailand ) และไม่ว่าจะเป็นการเช่าอยู่ในพื้นที่ใดของประเทศ เช่น โกดังให้เช่า สมุทรปราการ, โกดังให้เช่า บางนา หรือจะเป็นการเช่า คลังสินค้า บางปู,คลังสินค้า บางนา (Warehouse bangna) หรือจะเป็นโรงงานให้เช่าในกรุงเทพฯ(Bangkok Factory) สิ่งสำคัญคือจะต้องมีการจดแจงสาขาเพิ่ม เพราะการจดสาขาเพิ่มนั้นมีข้อดีต่อผู้ประกอบธุรกิจมากมายประกอบด้วย

• การจะสาขาเพิ่ม นอกจากสร้างรายได้ที่ดีขึ้น ยังเป็นการพัฒนาและรักษามาตรฐานการผลิตสินค้าใหม่ด้วย การจะเห็นได้จากหลายธุรกิจที่เริ่มเติบโตมีการขยายคลังสินค้าเพื่อรองรับการผลิตสินค้าใหม่ ๆ เพื่อตอบโจทย์สำหรับกลุ่มลูกค้าจำนวนมาก ทำให้มีรายได้มากขึ้น
  
  
• การจดสาขาเพิ่มช่วยลดความเสี่ยงจากการขาดทุน เพราะเมื่อในพื้นที่เดียวกันมีธุรกิจเกิดขึ้นมาใหม่และมีการแข่งขัน การเปิดสาขาใหม่ในพื้นที่อื่น จะทำให้ธุรกิจมีความเสี่ยงในการขาดทุนลดลง เพราะสามารถสร้างยอดขายกับสาขาใหม่ที่เพิ่งเปิดได้มากกว่า
  
  
• การจดสาขาเพิ่ม ยังเป็นการเพิ่มลูกค้าใหม่ เพราะทำให้มีสินค้าเพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภค ซึ่งถือว่าส่งผลดีช่วยให้ธุรกิจของคนเติบโตมากยิ่งขึ้นนั้นเอง ไม่เพียงเท่านั้นการเพิ่มสาขายังช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้บริโภคได้ด้วย ซึ่งสามารถสังเกตได้จาก ผู้บริโภคและไปซื้อสินค้า เมื่อพบว่าธุรกิจหรือบริการนั้นมีสาขาหลายแห่ง ก็จะเกิดความรู้สึกน่าเชื่อถือและมีโอกาสเติบโต ซึ่งหมายความว่าสินค้าของเรามีคุณภาพ

จากข้อดีต่าง ๆ ดังกล่าว สะท้อนให้เห็นได้ว่าการแจ้งจดสาขาเพิ่ม ถือเป็นการช่วยส่งเสริมสนับสนุนให้คนทำธุรกิจหันมาให้ความสำคัญที่จะผลักดันการขยายสาขาเพิ่มมากกว่าจะเป็นผู้ประกอบการที่มีเพียงสาขาเดียว เพราะฉะนั้นหากผู้ประกอบธุรกิจ แม้จะยังเพิ่มเริ่มต้นเปิดกิจการ ก็ไม่ควรพลาดที่จะทำความเข้าใจและวางแผนในการขยายสาขา ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญที่จะส่งเสริมให้ธุรกิจของคุณเติบโตไปสู่ความสำเร็จได้

หากคุณ คือผู้ประกอบการธุรกิจที่กำลังมองหาโรงงานให้เช่า คลังสินค้าให้เช่า หรือโกดังสินเค้าให้เช่า บริษัท ทิพย์โฮลดิ้ง จำกัด คือหนึ่งเป็นผู้พัฒนาโครงการ” โรงงานให้เช่า (Factory for rent Thailand) คลังสินค้าให้เช่า (Warehouse for rent Thailand) คลังสินค้า บางปู โกดังให้เช่า และย่านบางนา-ตราดที่ได้รับความไว้วางใจมานานกว่า20 ปี สำหรับ”ทิพย์โฮลดิ้ง” มีผลงานการพัฒนาโครงการโรงงาน และคลังสินค้าให้เช่า ในจังหวัดสมุทรปราการมาแล้วกว่า 650 หลัง หรือมากกว่า 650,000 ตารางเมตร

ปัจจุบันได้ “ทิพย์โฮลดิ้ง” ได้เปิดโครงการ TIP INDUSTRIAL PROJECT โครงการคลังสินค้าให้เช่า โกดังให้เช่าและโรงงานให้เช่า ทั้งหมด 9 โครงการ ตั้งแต่ขนาด 500 - มากกว่า 10,000 ตารางเมตร มีหลากหลายประเภทให้เลือก เช่น โรงงานขนาดเล็ก โรงงานพรีเมียม คลังสินค้าขนาดใหญ่ คลังกระจายสินค้า คลังสินค้าราคาย่อมเยา รวมไปถึงโรงงานสั่งสร้างคลังสินค้า โรงงาน ตามความต้องการของลูกค้า และยังสามารถเลือกให้เหมาะสมตรงตามนโยบายขององค์กร เช่น ซื้อหรือเช่า โดยผู้สนใจเช่าคลังสินค้า โกดังสินค้า ใน โครงการ TIP 1 - TIP 9 สมุทรปราการ ประเทศไทย ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่โทร 02 170 8888

สนใจติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : โทร : +66 2 170 8888
สำหรับการสอบถาม ภาษาไทย/ภาษาอังกฤษ : +66 083 465 4999
สำหรับการสอบถาม ภาษาญี่ปุ่น : +66 92 705 5511
แฟกซ์ : +66 2 170 8363
อีเมล : tip.rent@gmail.com