articleเทคนิคการบริหารคลังสินค้าให้ดีต่อธุรกิจของเรามากที่สุด

เทคนิคการบริหารคลังสินค้าให้ดีต่อธุรกิจของเรามากที่สุด

เทคนิคการบริหารคลังสินค้าให้ดีต่อธุรกิจของเรามากที่สุด

การบริหารคลังสินค้า โกดังให้เช่า โรงงานให้เช่า อย่างมีประสิทธิภาพ

 

ปัจจุบัน คลังสินค้าให้เช่า ( Warehouse for rent) โกดังให้เช่า โรงงานเช่า ได้เข้ามามีส่วนสำคัญต่อการประสบความสำเร็จทางธุรกิจ เนื่องจากคลังสินค้าเป็นกลไกขับเคลื่อนและสร้างความสมดุลในกระบวนการจัดการการผลิต ทำให้เกิดสินค้าและบริการ และยังเป็นพื้นที่จัดเก็บวัตถุดิบในการผลิตสินค้า นอกจากนี้การมีคลังสินค้ายังช่วยลดปัญหาการขาดแคลนวัตถุดิบ ช่วยให้การผลิตดำเนินไปได้อย่างต่อเนื่องและสามารถจัดส่งสินค้าได้ทันเวลา เพราะสิ่งที่สร้างความประทับใจให้กับลูกค้า ไม่ได้มีเพียงคุณภาพตัวสินค้า แต่ยังรวมไปถึงความรวดเร็วในการจัดส่ง ความถูกต้องในการจัดส่ง หากมีการส่งออเดอร์ผิดพลาดหรือจัดการได้ล่าช้า โอกาสที่ลูกค้าจะเปลี่ยนใจจากไม่ซื้อสินค้าซ้ำก็สูงมากขึ้น ดังนั้นเพื่อให้สามารถนำส่งสินค้าให้กับลูกค้าได้อย่างถูกต้องรวดเร็ว การบริหารจัดการคลังสินค้า (Warehouse Management) จึงสำคัญ นอกจากสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าแล้ว ยังช่วยในด้านการจัดเก็บสินค้าทั้งหมดที่มีให้อยู่ในพื้นที่ที่จัดสรรเอาไว้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ช่วยให้การเช็คสต็อก ควบคุมคุณภาพสินค้า และเคลื่อนย้ายหรือขนส่งสินค้าได้อย่างสะดวก และยังป้องกันปัญหาการหยิบสินค้าผิดพลาด อีกทั้งควบคุมต้นทุนในการจัดเก็บและขนส่งได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วย

 

สำหรับการที่จะบริหารคลังสินค้าให้มีประสิทธิภาพและมีสภาพคล่องสูงสุดนั้น มีปัจจัยหลักๆ ประกอบด้วย

  1. เวลาหรือส่งสินค้าได้ตรงตามเวลา
  2. สถานที่ คือเลือกคลังสินเค้าเช่าให้เหมาะกับธุรกิจ
  3. ต้นทุนเหมาะสม

 

ดังนั้นการวางระบบโลจิสติกส์ที่ดี จึงเป็นตัวช่วยสำคัญในการสร้าง3ปัจจัยดังกล่าว เพราะการขนส่งสินค้าจากคลังสินค้าไปสู่ผู้บริโภคผ่านระบบการกระจายสินค้า รวมถึงการจัดเก็บสินค้า จะกลายมาเป็นต้นทุนที่องค์กรต้องแบกรับ ดังนั้นธุรกิจต่างๆจึงต้องบริหารคลังสินค้าให้ดี มีระบบเพื่อให้กิจกรรมการขนส่งที่ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ เพื่อช่วยลดต้นทุน และทำให้คลังสินค้าสามารถจัดเก็บและกระจายสินค้าได้ตลอดเวลา

การจัดระบบบริหารบุคลากร ก็เป็นสิ่งสำคัญนอกไปจากระบบโลจิสติกส์ พื้นที่การจัดเก็บและอุปกรณ์ที่ใช้ในการลำเลียงสินค้า เพราะการวางระบบบริหารทรัพยากรบุคคลที่มีหน้าที่เกี่ยวกับองค์กรของคลังสินค้าก็เป็นส่วนที่มีความสำคัญและมองข้ามไม่ได้ ดังนั้นการฝึกอบรม และการสื่อสารให้บุคลากรมีความใจในตำแหน่งและหน้าที่ของตัวเอง เพื่อให้บุคลากรในคลังสินค้ามีการปรับตัวเข้ากับระบบการทำงานในคลังสินค้าได้มากที่สุด

ใช้ Warehouse Management System (WMS) เข้ามาช่วยดูแลรักษาและจัดการสิ่งต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานคลังสินค้า ตั้งแต่การจัดการห่วงโซ่อุปทาน การหยิบ การบรรจุ และการจัดส่ง จะช่วยให้ระบบคลังสินค้ามีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะWMS ที่ดีจะช่วยแยกแยะระหว่างเวิร์กโฟลว์ที่มีความคล่องตัวกับเวิร์กโฟลว์ที่ยุ่งเหยิงและไม่มีประสิทธิภาพ ทำให้สามารถรับข้อมูลเชิงลึก จัดการเวิร์กโฟลว์ และติดตามเวลาของพนักงาน ยิ่งไปกว่านั้นการใช้ Extensiv Warehouse Manager เป็นเครื่องมือในการจัดการสินค้าคงคลังและคลังสินค้า ยังสามารถปรับปรุงกระบวนการทั้งหมดได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

WMS คืออะไร?

WMS คือ โปรแกรมหรือระบบจัดการคลังสินค้า ทำหน้าที่เป็นหัวสมองของคลังสินค้าเลยก็ว่าได้ โดยวิธีการทำงานจะนำเอาระบบคอมพิวเตอร์มาใช้ในกระบวนการต่างๆ ของคลังสินค้า เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของการทำงาน ช่วยเพิ่มความสะดวกรวดเร็ว และเพิ่มความถูกต้องแม่นยำในการค้นหาสินค้า ช่วยตรวจสอบข้อมูลสินค้า อีกทั้งยังช่วยลดปัญหาสินค้าสูญหาย สินค้าตกหล่น หรือหาสินค้าไม่พบได้อีกด้วย

 

WMS ช่วยแก้ปัญหาคลังสินค้า3ด้าน

  1. WMS คือตัวช่วยแก้ปัญหาการจัดเก็บสินค้า WMS คือ โปรแกรมคลังสินค้าครบวงจรที่ช่วยแก้ปัญหากระบวนการจัดเก็บ (Put Away) โดยระบบ WMS สามารถแนะนำตำแหน่งที่เหมาะสมในการจัดเก็บสินค้าภายในคลังสินค้าได้ อีกทั้งยังมีการยืนยันตำแหน่งการจัดเก็บที่ถูกต้อง หลังจากที่ตรวจสอบแล้วพบการจัดเก็บอยู่ในตำแหน่งนั้นจริง ผู้ตรวจสามารถเซ็นอนุมัติได้ง่าย นอกจากนั้นยังมีกระบวนการจัดเก็บและการจัดการคลังสินค้าด้วยระบบบาร์โค้ด โดยใช้การยิง Barcode Scanner ในตำแหน่งที่จัดเก็บจริงเพื่อช่วยให้สามารถค้นหาสินค้าเจอได้ง่ายขึ้น
  2. WMS ช่วยแก้ปัญหาในการรับสินค้า ระบบ WMS สามารถช่วยแก้ปัญหากระบวนการรับสินค้า (Receiving) ได้ โดยสามารถที่จะ Reverse พื้นที่หรือจองพื้นที่ล่วงหน้า ช่วยให้การวางแผนการใช้พื้นที่ในคลังสินค้ามีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เนื่องจากคลังสินค้าบางแห่ง ที่ไม่มีระบบการจัดการที่ดีในการรับสินค้า เมื่อรับสินค้าเข้าคลังแล้วนำไปวางไว้ตามใจชอบ ผลสุดท้ายคืออาจทำให้หลงลืมได้ว่านำสินค้าไปวางที่ไหนนั่นเอง ดังนั้นแล้ว WMS คือสิ่งที่ธุรกิจยุคนี้ไม่ควรมองข้าม
  3. WMS ช่วยแก้ปัญหาการเบิกจ่ายสินค้า ระบบการจัดการคลังสินค้า WMS คือ ระบบที่ช่วยแก้ปัญหากระบวนการเบิก (Picking) ซึ่งจะมีระบบ Search ช่วยในการค้นหาสินค้าได้ง่ายดายเพียงแค่กรอกเงื่อนไข ระบบก็จะสามารถค้นหาสินค้าเจอเองได้โดยอัตโนมัติ ใช้เวลาอันสั้น ไม่ว่าจะเป็นการหยิบสินค้าแบบ FIFO, LIFO ,FEFO หรือสามารถกำหนดเองก็ทำได้

 

ใช้ระบบการบริหารแบบ 5S ช่วยจัดสรรการทำงาน

การจัดสรรพื้นที่ภายในถือเป็นอีกหนึ่งหัวใจสำคัญของการบริหารคลังสินค้าเลยทีเดียว พื้นที่ที่จัดการไว้อย่างเป็นระบบ สะดวกต่อการใช้สอย จะช่วยให้การดำเนินการต่างๆ ทำได้อย่างรวดเร็วและเกิดความผิดพลาดน้อย โดยจะขอแนะนำหลักบริหารแบบ 5S เพื่อการบริหารพื้นที่ภายในคลังได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนี้

  • Sort จัดสินค้าให้เป็นระเบียบ โดยการคัดแยกสินค้าเอาไว้เป็นหมวดหมู่ แบ่งตามประเภทเอาไว้ให้เรียบร้อย เพื่อไม่ให้เกิดความสับสนในการจัดเก็บหรือนำส่งลูกค้า
  • Set in order จัดพื้นที่ให้เป็นระบบ ช่วยจัดสรรพื้นที่ภายในให้สามารถทำงานกันได้อย่างสะดวก ไม่เบียดเสียดหรือเหลือพื้นที่เว้นว่างมากจนเกินไป
  • Shine พื้นที่ภายในต้องสะอาดตา โดยการดูแลพื้นที่ภายในควรทำความสะอาดทันทีเมื่อเสร็จสิ้นการทำงาน เพื่อป้องกันการสะสมของฝุ่นผงที่เป็นอีกหนึ่งปัญหาใหญ่ของคลังสินค้า ลดมลภาวะกวนใจขณะทำงาน
  • Standardize มีมาตรฐานในการทำงาน โดยการมีมาตรฐานการทำงานที่เป็นระบบระเบียบ โดยการเน้นย้ำให้บุคลากรภายในคลังสินค้าทุกคนปฏิบัติตาม ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยและความรวดเร็วในการทำงานอีกด้วย
  • Sustain เอาใจใส่ในการทำงาน ซึ่งผู้ประกอบการควรให้ความใส่ใจและเข้ามาตรวจสอบการทำงานภายในคลังสินค้าอยู่เสมอ เพื่อให้เห็นปัญหาที่เกิดขึ้นด้วยตัวเอง และหาทางแก้ไขได้อย่างทันท่วงที

 

นอกจากระบบโลจิสติกส์ โปรแกรมหรือระบบจัดการคลังสินค้าWMS แล้ว คลังสินค้าให้เช่า โกดังให้เช่า หรือพื้นที่จัดเก็บสินค้าที่มีขนาดเหมาะสมกับสินค้า คือสิ่งอีกหนึ่งสิ่งที่ต้องคำนึงถึง เพราะเจ้าของธุรกิจต้องรู้ปริมาณสินค้าที่จะต้องจัดเก็บปริมาณสินค้าที่ส่งออก และลักษณะของสินค้าเพื่อให้สามารถเลือกคลังสินค้าให้เช่า หรือโกดังให้เช่ามีขนาดและรูปแบบเหมาะสมกับสินค้า สำหรับ คลังสินค้าให้เช่า โกดังให้เช่า นั้น เจ้าของธุรกิจจะต้องเลือกให้เหมาะสมกับสินค้า ทั้งขนาดและระยะทางในการขนส่ง ดังนั้น การเลือกคลังสินค้าให้เช่า หรือโกดังให้เช่า จึงควรต้องอยู่ใกล้กับระบบขนส่ง เช่น ท่าเรือ สนามบิน หรือศูนย์กระจายสินค้าของผู้ให้บริการโลจิสติกส์ ในปัจจุบันโซนหรือทำเลที่ตั้งคลังสินค้าหรือโกดังสินค้าในประเทศไทยที่ได้รับความนิยมมาก ก็คือ เขตพื้นที่ที่ใช้ประโยชน์สำหรับที่ดินประเภทอุตสาหกรรมและคลังสินค้า ที่สามารถสร้างโรงงานได้ในเขตนี้เท่านั้น ซึ่งประกอบด้วย 2 โซน ได้แก่

 

  1. ทำเลบางนา ซึ่งมีคลังสินค้า บางนา (warehouse bangna) โกดังให้เช่า บางนา อยู่เป็นจำนวนมาก
  2. ทำเลบางปู จะมีคลังสินค้า บางปู โกดังเช่า สมุทรปราการ โรงงานให้เช่า การเช่าโกดัง เป็นต้น

 

ทั้งสองโซนนับว่าเป็นโซนที่มีการพัฒนาโครงการคลังสินค้าให้เช่าและโกดังให้เช่า factory for rent Thailand ไว้ให้ผู้ประกอบธุรกิจเลือกใช้จำนวนมากหลากหลายรูปแบบตามความต้องการ เมื่อทราบแล้วว่า ขนาดของคลังสินค้า และสถานที่ตั้ง โกดังสินค้าให้เช่าจำเป็นต้องอยู่ในโซนที่มีระบบขนส่งที่ดีรองรับ จึงไม่น่าแปลกใจว่าทำไมเจ้าของธุรกิจต่างๆ จึงนิยมเลือกเช่าคลังสินค้า โกดังสินค้าให้เช่าในโซนบางนา และบางปู มากขึ้นอย่างต่อเนื่อง บริษัท ทิพย์โฮลดิ้ง จำกัด คือผู้ให้บริการ โรงงานให้เช่า (Factory for rent Thailand) คลังสินค้าให้เช่า คลังสินค้า บางปู โกดังให้เช่า ที่ได้รับความไว้วางใจมานานกว่า20 ปี โดย”ทิพย์โฮลดิ้ง” ได้พัฒนาโครงการโรงงาน และคลังสินค้าให้เช่า ในจังหวัดสมุทรปราการมาแล้วกว่า 650 หลัง หรือมากกว่า 650,000 ตารางเมตร

 

ปัจจุบัน “ทิพย์โฮลดิ้ง” ได้เปิดโครงการ TIP INDUSTRIAL PROJECT โครงการคลังสินค้าให้เช่าโกดังให้เช่าและโรงงานให้เช่า ทั้งหมด 9 โครงการ ตั้งแต่ขนาด 500 - มากกว่า 10,000 ตารางเมตร มีหลากหลายประเภทให้เลือก เช่น โรงงานขนาดเล็ก โรงงานพรีเมียมคลังสินค้าขนาดใหญ่คลังกระจายสินค้า คลังสินค้าราคาย่อมเยา รวมไปถึงโรงงานสั่งสร้างคลังสินค้า โรงงาน ตามความต้องการของลูกค้า และยังสามารถเลือกให้เหมาะสมตรงตามนโยบายขององค์กร เช่น ซื้อหรือเช่า หากคุณคือผู้ประกอบการที่สนใจเช่าคลังสินค้า โกดังสินค้าในโครงการ TIP 1 - TIP 9 สมุทรปราการ ประเทศไทย ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่โทร 02 170 8888

หากคุณสนใจ โกดังให้เช่า สมุทรปราการ คลังสินค้า บางนา โกดังให้เช่า บางนา คลังสินค้า บางปู ให้ TIP INDUSTRIAL PROJECTS เป็นตัวเลือกของคุณ

 

สนใจติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : โทร : +66 2 170 8888
สำหรับการสอบถาม ภาษาไทย/ภาษาอังกฤษ : +66 083 465 4999
สำหรับการสอบถาม ภาษาญี่ปุ่น : +66 92 705 5511
แฟกซ์ : +66 2 170 8363
อีเมล : tip.rent@gmail.com

04 July 2023

Viewed 7452 time